Two Dimensional Note

บันทึกการเรียนการสอน วิชา 2 Dimensions Design ปีการศึกษา 2563คณะศิลปกรรมศาสตร์ ภาควิชาการออกแบบแฟชั่น มหาวิทยาลัยกรุงเทพออกแบบและสอนโดย สันติ ลอรัชวีบันทึกและเรียบเรียงโดย อรรฆพงศ์ ผลประเสริฐ และ สันติ ลอรัชวี ผมโชคดีที่มีโอกาสได้กลับไปสอนวิชาพื้นฐานอย่างการออกแบบสองมิติ อันเป็นวิชาแรกที่ผมมีโอกาสได้สอนครั้งเป็นอาจารย์ใหม่ๆ เป็นวิชาที่ทำให้เราได้เข้าใจการทำงานที่ผ่านมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น และส่งผลให้ตนเองขยับขยายมุมมองและขอบเขตการทำงานออกไปได้หลังจากนั้น การได้มาสอนวิชานี้จึงช่วยตอกย้ำตนเองว่าพื้นฐานเป็นสิ่งจำเป็นต่อการพัฒนาตนเอง และได้สอนและเรียนไปในตัวผ่านวิชาการออกแบบสองมิติมาอีก 6-7 ปี ร่วมสอนกับอาจารย์หลายท่าน และได้สอนนักศึกษาหลายภาควิชา เมื่ออาจารย์บอลล์ ปิยลักษณ์ เบญจดล มอบโอกาสนี้ให้ จึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและตั้งใจว่าจะออกแบบการเรียนรู้อย่างจริงจังในการกลับมาสอนครั้งนี้ โดยได้มีโอกาสร่วมสอนกับ เต้ อรรฆพงศ์ ผลประเสริฐ ลูกศิษย์ที่ภายหลังได้มาร่วมทำโรงเรียนออกแบบด้วยกัน (PRACTICAL school of design) ในการสอนครั้งนี้ขอบคุณเต้เป็นอย่างสูงที่บันทึกการเรียนการสอนครั้งนี้ไว้ ทำให้ระหว่างที่กลับมาอ่านและเรียบเรียงนั้น รู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณอย่างมาก เพราะอย่างน้อยมันเป็นกระจกช่วยสะท้อนสิ่งที่เราได้ทำและเป็นแนวทางในการปรับปรุงต่อไป ส่วนท่านที่ได้อ่าน หวังว่าจะเป็นประโยชน์ครับ บันทึกสองมิติ 0เป้าหมาย วิชานี้ถูกออกแบบชั้นเรียนให้เป็นพื้นที่ที่สร้างประสบการณ์ให้กับผู้เรียนทุกคน เราออกแบบ ทดลอง แล้วจึงสรุปผล  ดังนั้นผู้ที่มีเป้าหมายและเข้าใจเป้าหมายของการเรียนรู้ของตัวเองนั้น จึงจะเป็นผู้ตัดสินผลการเรียนรู้นั้นได้ดีที่สุด ไม่ใช่ผู้สอน วิชานี้จึงเริ่มต้นออกแบบด้วยการวาง … Continue reading Two Dimensional Note

แนะนำหนังสือสัญศาสตร์กับการออกแบบกราฟิก

สันติ ลอรัชวีแปลและเรียบเรียงจากบทนำและบทส่งท้ายจากหนังสือ Fire Signs: A Semiotics Theory for Graphic Design โดย Steven Skaggs IMAGE: https://www.logodesignlove.com/firesigns-semiotic-theory-graphic-design เมื่อผมเริ่มเปิดคอร์ส A stone in your mind กับ PRACTICAL school of design ที่มีเป้าหมายจะนำเอาแนวคิดทางสัญศาสตร์มาเป็นแกนกลางในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ด้านออกแบบ โดยกำหนดจุดเริ่มต้นที่ทุกคนร่วมทางกันได้อย่าง “ก้อนหิน” หนังสือเล่มหนึ่งที่ใช้เป็นคบเพลิงให้แสงสว่างนำทางทั้งความเข้าใจและแรงบันดาลใจก็คือ Fire Signs ของ Steven Skaggs แม้ทุกวันนี้อ่านจบอย่างงงๆ ไปแล้ว แต่แต่ต้องคอยมาแปลและตีความอยู่ตลอด เพื่อหาทางนำไปใช้และแบ่งปันกับผู้เข้าร่วมคอร์ส บทเรียบเรียงนี้คิดว่ามีประโยชน์มากต่อการฉายภาพอีกมุมของการออกแบบกราฟิก รวมไปถึงเป็นการป้ายยาให้หลายคนที่อาจสนใจไปหาอ่านต่อด้วยตัวเอง ————— เพียงบทนำของหนังสือ Fire Signs ของ Steven Skaggs ก็เพียงพอต่อการแจกแจงวิชาชีพกราฟิกดีไซน์ที่เปิดกว้าง ชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่าง “พาณิชย์ศิลป์” และ “การออกแบบกราฟิกร่วมสมัย” รวมถึงทิศทางและหน้าที่ของทฤษฎีการออกแบบกราฟิกที่ควรจะเป็น หากใครมีกำลังในการอ่าน … Continue reading แนะนำหนังสือสัญศาสตร์กับการออกแบบกราฟิก

Gestalt 101 — Fool the eyes

สันติ ลอรัชวี นิทานเซนเรื่องหนึ่งสอนว่า…แรกเริ่ม…มองแม่น้ำก็เป็นแม่น้ำมองภูเขาก็เป็นภูเขาไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างเลยแต่ต่อมา… จะมองเห็นว่าแม่น้ำไม่ได้เป็นแม่น้ำ ภูเขาไม่เป็นภูเขาแม่น้ำก็เป็นเพียงธาตุ ภูเขาก็เป็นธาตุแต่เมื่อผ่านชีวิตมากขึ้น…กลับมามองเห็นแม่น้ำนั้นก็เป็นแม่น้ำภูเขาก็เป็นภูเขาดังเดิม Heraclitus นักปรัชญากรีกโบราณยังกล่าวไว้ว่าไม่มีใครที่ก้าวลงแม่น้ำสายเดิมได้เป็นครั้งที่สองเหตุเพราะแม่น้ำนั้นไม่ใช่สายเดิม คนๆ นั้น ก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปไม่ว่าแม่น้ำหรือบุคคลก็เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เมื่อเรายืนอยู่ชั้นบนของอาคารสูงแล้วมองออกไป…เห็นตึกรามบ้านช่อง ต้นไม้ และท้องฟ้าในทางทฤษฎีอาจกล่าวได้ว่าเราเห็นค่าความสว่างของแสงและความต่างของสีแต่เราก็ไม่ได้คิดว่าเห็นค่าอะไรทั้งนั้นเราเห็นมันเป็นรูปทรงรูปร่างที่ทำให้เราเข้าใจว่ามันคืออะไรหรือบ้างครั้งเราก็มองเห็นภาพรวมๆ นั้นเป็นฉากของเมืองอาจมีตึกบางตึกที่ทำให้เราบอกได้ว่านี่คือกรุงเทพฯ ที่เรารู้จัก เวลาที่เราฟังเพลง…เราก็ไม่ได้ใส่ใจแยกแยะหรือรับรู้ว่ากำลังได้ยินเสียงแต่ละโน้ตกำลังเรียงตัวกันสลับกันไปมาบ้าง ดังขึ้นพร้อมกันบ้าง ยกเสียงสูงขึ้นลงต่ำอย่างไรแต่เราได้ยินเป็นท่วงทำนองดนตรี ไพเราะหรือไม่คงขึ้นอยู่กับคุณที่กล่าวมา... มันน่าสนใจอย่างไรย้อนกลับไปช่วงปลายศตวรรษที่ 19นักปรัชญาและนักจิตวิทยาชาวออสเตรีย Christian von Ehrenfelsเคยตั้งถามน่าสนใจว่า “เรารับรู้ทำนองดนตรีได้อย่างไร?” “อะไรที่อยู่ในความคิดของเราขณะกำลังได้ยินท่วงทำนอง?”เมโลดี้คือลำดับของโทนเสียง เป็นคลื่นเสียงที่มีความถี่ต่างกันหูของเรารวบรวมการสั่นสะเทือนเหล่านี้แปลงเป็นกระแสไฟฟ้าและส่งต่อไปยังสมองของเราโน้ตเหล่านี้ได้รับการตัดเย็บในรูปแบบเฉพาะของความสัมพันธ์ระหว่างโน้ต จังหวะ และความสอดประสาน ท่วงทำนองนั้นถูกบันทึกไว้ในความทรงจำของเรา เป็นทำนองที่เราสามารถจำได้ในอนาคต Ehrenfels เริ่มศึกษาจากงานของนักวิทยาศาสตร์ Ernst Mach ที่ชื่อ “Contributions to analysis sensation” ซึ่ง Mach เสนอว่าเวลาเราเห็นเส้นตรงสามเส้นที่เชื่อมต่อกันนอกเหนือไปจากความรู้สึกพื้นฐานของที่เห็นเป็นเส้นสามเส้นแล้วเรายังรู้สึกถึง “รูปร่าง - รูปแบบ (shape-form)” ไปในขณะเดียวกันด้วย (เช่นรูปทรงสามเหลี่ยม)เขาขยายความคิดนี้ไปในด้านรูปแบบที่เกี่ยวกับเวลา (time-forms) เช่นกันและเสนอว่าการที่เรารับรู้ทำนอง อาจเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันดังนั้นเมื่อเราได้ยินโน้ตแต่ละตัว เราก็ตระหนักถึงเสียงทั้งหมดที่ได้ยินด้วย แต่ … Continue reading Gestalt 101 — Fool the eyes

Fikra Graphic Design Biennial 01 — De-centering English

https://fikrabiennial.com/program/de-centering-english/ https://art4d.com/2019/03/fikra-graphic-design-biennial-01-ministry-of-graphic-design Text by Santi Lawrachawee Fikra Graphic Design Biennial 01Conference, Nov 102 - 2:50pm De-centering English HUDA ABIFARÈS, SANTI LAWRACHAWEE, AND ASAD PERVAIZFIRST FLOOR, DEPT. OF MAPPING MARGINS We would need to move to a space of gesture and performance if we would want to imagine a de-colonial, critical graphic design. We would have to … Continue reading Fikra Graphic Design Biennial 01 — De-centering English

ศูนย์กลางอยู่ทุกหนแห่ง

บทความว่าด้วยการสำรวจตัวพิมพ์ไทยฉบับย่อ โดย สันติ ลอรัชวี หากย้อนกลับไปสำรวจแบบตัวพิมพ์ไทย ในช่วงศตวรรษที่ ๑๘  จะพบว่ากว่าหนึ่งร้อยปีที่การพิมพ์ในประเทศไทยได้ขาดช่วงไป จนกระทั่งถึงช่วงต้นยุครัตนโกสินทร์ (พ.ศ. ๒๓๒๕) กระบวนการพิมพ์จึงได้กลับสู่เมืองไทย ทำให้รูปแบบตัวอักษรไทยเกิดความก้าวหน้าขึ้นอีกครั้ง ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช นอกเหนือจากเรื่องราวแสนโรแมนติกของออกขุนศรีวิศาลวาจาและแม่การะเกด จากละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของคนไทยอยู่ในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ แล้ว ยังมีหลักฐานอ้างอิงได้อีกว่า ในยุคนั้นการพิมพ์ในประเทศไทยกำลังสร้างปฐมบทขึ้น จากการเดินทางของคณะมิชชันนารีคาทอลิกจากฝรั่งเศสเข้ามาในไทย เมื่อ พ.ศ. ๒๒๐๕ ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยมีสังฆราชหลุยส์ ลาโน (Louis Laneau) ได้แต่ง แปล และพิมพ์หนังสือคำสอนทางคริสต์ศาสนา เป็นภาษาไทยจำนวน ๒๖ เล่ม หนังสือไวยกรณ์ไทยและบาลี ๑ เล่ม และพจนานุกรมไทยอีก ๑ เล่ม จากหนังสือ “หนึ่งรอยตัวเรียง” บันทึกว่า การเข้ามาสอนศาสนาและวิชาการต่างๆ เข้ามาอย่างเป็นระบบ และมีตำราเรียนประกอบของสัฆราชลาโน เหล่านี้อาจเป็นแรงจูงใจให้สมเด็จพระนารายณ์ฯ โปรดให้พระโหราธิบดี จัดทำหนังสือ “จินดามณี” อันมีเนื้อหาว่าด้วยระเบียบของภาษาอักรวิธีเบื้องต้น และวิธีแต่งโคลง … Continue reading ศูนย์กลางอยู่ทุกหนแห่ง

บันทึกการบรรยาย สัญศาสตร์การออกแบบ

โดย สันติ ลอรัชวี ศุกร์ที่ 3 เมษายน 2563 ผ่านโปรแกรม Zoom.us  สวัสดีครับ นักศึกษาและทุกท่านที่สนใจเข้ารับฟังบรรยายในครั้งนี้ กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา Design Semiotics ภายใต้หลักสูตรศิลปมหาบัณฑิต สาขาวิชาการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต ขอขอบคุณหลักสูตรฯ มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับที่ให้โอกาสกับผมในการสอนวิชานี้มาอย่างต่อเนื่อง ทำไมนักออกแบบถึงสนใจสัญศาสตร์? ผมมารู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นผู้สอนวิชาสัญศาสตร์กับการออกแบบมาร่วม 10 ปีแล้ว อย่างไรก็ตามผมยอมรับกับตัวเองมาหลายปีแล้วว่า ตนเองเป็นเพียงนักออกแบบที่สนใจศึกษาสัญศาสตร์ และพยายามนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานออกแบบของตนเอง แนวทางการสอนของผมจึงมุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์ให้กับผู้เรียนเกี่ยวกับ แนวคิดด้านสัญศาสตร์ที่เชื่อมโยงอยู่ในกระบวนการออกแบบและการนำเสนอผลงาน รวมถึงการวิเคราะห์ หรือ ที่ผมมักเรียกว่า “การอ่านออก-เขียนภาพ (visual literacy)” ต่องานออกแบบให้ละเอียดละออยิ่งขึ้น ส่วนตัวจึงไม่เคยเชื่อมั่นว่าตนเองเข้าใจสัญศาสตร์ดีนัก แต่ความสนใจกลับทวีเพิ่มขึ้นตามลำดับ การสอน จึงเปรียบเป็นการเคี่ยวกรำให้ตัวเอง เรียนรู้ เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ รู้จักสัญศาสตร์ได้อย่างไร ผมรู้จักสัญศาสตร์จากคำแนะนำของอาจารย์ของผมท่านหนึ่ง เราเคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมเราเรียก “ม้า” ว่า “ม้า” แล้วทำไมเราถึงเขียนและอ่านคำว่า “ม้-า” ว่า “ม้า” ยังไม่รวมถึงการที่เราพูดหรือเขียน … Continue reading บันทึกการบรรยาย สัญศาสตร์การออกแบบ

อ่านออก เขียนภาพ

โดย สันติ ลอรัชวี (เอกสารประกอบเวิร์คช็อป Visual Literacy จัดโดย PRACTICAL Design Studio, 7 ต.ค. 2560) การอ่านภาพ (Visual Literacy)  อธิบายได้ว่าคือความสามารถในการเข้าใจและใช้ภาพ รวมทั้งความสามารถในการคิด ในการเรียน และแสดงออกของตัวเองต่อภาพที่มองเห็น ไม่มีใครปฏิเสธว่า “ภาพ” เป็นสิ่งหนึ่งช่วยให้การสื่อสารสมบูรณ์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อาจสรุปได้ว่าการอ่านภาพคือความสามารถทางด้านการมองเห็นของมนุษย์ และใช้ความสามารถนั้นในการจำแนกและแปลความหมาย สิ่งที่มองเห็นเพื่อการติดต่อสื่อสารได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และมีสุนทรียภาพ คำว่า Visual Literacy สามารถแยกแปลความหมายของคำนี้ได้คือ “Visual” หมายถึงสิ่งที่เกี่ยวกับจักษุประสาทหรือสิ่งที่ตามองเห็น ซึ่งอาจเรียกรวมว่า “ภาพ” ก็ได้ “Literacy” หมายถึงความสามารถในการอ่านเขียนหรือการเรียนรู้ “การอ่านออกเขียนภาพ” จึงเป็นรูปแบบของการคิดที่สำคัญ ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพทางการสื่อสารเชิงภาพให้กับนักออกแบบ การสื่อและรับสารทางสายตานั้นมีความผูกพันกับมนุษย์ก่อนจะมีภาษาพูดและเขียนด้วยซํ้า ภาพเขียนในผนังถํ้า การสังเกตสีของผลไม้ พัฒนามาเป็นสัญลักษณ์สากลมากมายที่เราใช้กันในปัจจุบัน หากแต่มนุษย์เริ่มคิดผ่านอิทธิพลของ ภาษาหลังจากที่อารยธรรมด้านภาษาของเราวิวัฒน์มาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นภาษา (Linguistics) จึงเป็นระบบการสื่อสารที่มี อิทธิพลต่อมนุษย์ เราทั้งใช้มันในการคิด การรับรู้ และการแสดงออก … Continue reading อ่านออก เขียนภาพ

ความท้าทายของการออกแบบ

เรียบเรียงจาก Series Foreward, Design Thinking, Design Theory Series ของ MIT Press โดย สันติ ลอรัชวี หนังสือชุด Design Thinking, Design Theory Series ของ MIT Press ได้ตีพิมพ์หนังสือที่เสนอแนวคิดและทฤษฎีการออกแบบที่ควรค่าแก่การอ่านหลายต่อหลายเล่ม ส่วนที่น่าสนใจคือบทบรรณาธิการชุดหนังสือ ( Series Foreward) ที่เขียนโดยสองบรรณาธิการ ได้แก่ เคน ฟรีดแมน และ อีริค สโทลเทอร์แมน ที่กล่าวถึงความเป็นมาของการออกแบบจนมาถึงความท้าทายที่นักออกแบบทุกสาขากำลังเผชิญร่วมกัน 10 ประการ อันเป็นประเด็นที่ชวนให้นักออกแบบมาคิดต่อถึงบทบาทหน้าที่ คุณค่า และนิยายามของสิ่งที่เรากำลังเรียกมันเป็นอาชีพ หากสิ่งที่เป็นกิจกรรมพื้นฐานที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกคนนั่นคือ “การออกแบบ” สำหรับผม… ความท้าทายในบทนำนี้ ย่อมไม่การคาดการณ์ที่ชี้ขาดต่อความเป็นไปของนิยามและคุณค่าการออกแบบ วิธีการออกแบบ และนักออกแบบ หากเป็นคำถามพื้นฐานสำคัญที่อาจจะต้องหมั่นปรับปรุงคำตอบของตนเองให้สอดคล้องกับความเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เข้าใจบทบาทหน้าที่ของสิ่งที่กำลังทำ เข้าใจสิ่งที่กำลังเรียกขานตัวเอง ให้สัมพันธ์กับ “กาละ-เทศะ” อยู่เสมอ นิยามที่ว่าการออกแบบเป็นระบบความสัมพันธ์ยังคงสมเหตุสมผล … Continue reading ความท้าทายของการออกแบบ

Design is attitude

Helmut Schmid เกิดในปี 1942 ณ ประเทศออสเตรียในฐานะพลเมืองเยอรมัน เขาศึกษาในสวิสเซอร์แลนด์ที่โรงเรียนออกแบบบาเซิลภายใต้การสอนของ Emil Ruder, Kurt Hauert และ Robert Buchler เขาทำงานในเบอร์ลินตะวันตกและสตอกโฮล์ม (Grafisk Revy) ต่อมาที่มอนทรีออล (Ernst Roch Design) และแวนคูเวอร์ หลังจากนั้นเขาทำงานที่โอซาก้าให้ NIA (Taiho Pharmaceutical และ Sanyo) และในปี 1973-76 มาทำที่ ARE ในดัสเซลดอร์ฟเขาออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์ให้กับรัฐบาลเยอรมนีและนายกรัฐมนตรี Willy Brandt และ Helmut Schmidt ออกแบบสัญลักษณ์การรณรงค์เลือกตั้งของพรรคคอมมิวนิสต์ ในปี 1976 และได้จัดแสดงนิทรรศการการออกแบบตัวอักษรเชิงการเมืองของเขา (politypographien) ที่ Print Gallery ในอัมสเตอร์ดัม จากนั้นหันมาเป็นนักออกแบบอิสระในโอซาก้าตั้งแต่ปี 1981 ได้รับเชิญเป็นสมาชิกของ AGI (Alliance Graphique Internationale) ตั้งแต่ปี … Continue reading Design is attitude

Designed by Empathy

(เผยแพร่ครั้งแรกในนิตยสาร art4d พ.ศ. 2560) จากชุดบทความ The Evolution of Design Thinking ในวารสาร Harvard Business Review ฉบับเดือนกันยายน 2558 ที่โปรยหัวว่าความคิดเชิงออกแบบจะกลายเป็นศูนย์กลางของการวางกลยุทธ์ การสร้างนวัตกรรม และการจัดการทางวัฒนธรรมนั้น สร้างคำถามต่อผู้เขียนว่านักออกแบบจะมีบทบาทอย่างไรต่อปรากฏการณ์ที่ว่านี้ อีกทั้งยังนึกสงสัยว่าในอนาคต “Designer” จะถูกจำกัดความให้อยู่ในขอบเขตของเพียงการสร้างสรรค์เชิงกายภาพหรือไม่ และเป็นไปได้หรือไม่ต่อการเกิดขึ้นของคำเรียกผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการคิดเชิงออกแบบว่า “Design Thinker” รวมถึงการโต้แย้งกันที่เกิดขึ้นอย่างคำว่า “Design Thinking is Bullshit” จากนักออกแบบคนสำคัญ อย่างไรก็ดี ลินดา ไนแมน ผู้ก่อตั้ง Creativity at Work ก็ยังให้คำจำกัดความที่ทำให้นักออกแบบอย่างผู้เขียนเชื่อว่านักออกแบบมีส่วนสำคัญต่อการคิดเชิงออกแบบ จากบทความในเว็บไซต์เธออธิบายว่า “การคิดเชิงออกแบบคือกระบวนวิธีที่เหล่านักออกแบบใช้ในการแก้ปัญหาและการแสวงหาวิธีหรือทางออกที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยแกนหลักไม่ใช่การเพ่งความสำคัญไปที่ปัญหา แต่เป็นทางออกในการแก้ปัญหา และการปฏิบัติที่จะนำไปสู่สิ่งที่คาดหวังมากกว่า การคิดเชิงออกแบบนี้ดำเนินไปด้วยการใช้ตรรกะ จินตนาการ ญาณทัศนะ และการให้เหตุผลที่เป็นระบบ เพื่อสำรวจความเป็นไปได้และการสร้างสรรค์ผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งจะเกิดผลดีกับลูกค้าหรือผู้ใช้งาน ในมุมมองของผู้เขียน คำจำกัดความนี้ให้เครดิตกับเหล่านักออกแบบไม่น้อย เนื่องจากมันได้สะท้อนว่ากระบวนวิธีที่นักออกแบบใช้ในการทำงานอยู่แล้วนั้นมีประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่ซับซ้อนมากขึ้นในปัจจุบัน … Continue reading Designed by Empathy